Kanokkorn02

 10 ไอเดีย "ถ่ายรูปคู่แฟน" ให้หวานจนน่าอิจฉา 1. ชวนไอต้าวมาเซลฟี่ผ่านกระจก ไอเดียนี้เหมาะมากสำหรับแฟนหนุ่มที่ไม่ค่อยชอบถ่ายรูปสักเท่าไหร่ เพราะการเซลฟี่ผ่านโทรศัพท์แบบแกล้ง ๆ จะไม่ต้องมาตั้งใจเหมือนกับท่าโพสต์ถ่ายรูปจริงจัง 2.ลูบหัวอ่อนโยนสไตล์คนมีความรัก ทริคการถ่ายรูปนี้คือต้องทำตัวให้เป็นธรรมชาติที่สุด พร้อมยิ้มอ่อนโยนให้เข้ากับมู้ดภาพโดยรวม หรือแกล้ง ๆ ชวนแฟนคุยไปเรื่อยแล้วให้ลูบหัวไปด้วย รูปที่ออกมาก็จะดูธรรมชาติมาก ๆ หรือคู่รักสายขี้เล่นซุกซนจะใช้มู้ดแบบลูบหัว ผลักหัว แบบหยอก ๆ แกล้ง ๆ กันก็น่ารัก 3.แกล้งจุ๊บให้รู้ว่ารัก ทริคคือการแอคติ้งฟีลแบบแกล้ง ๆ จุ๊บให้ดูธรรมชาติ จะจุ๊บแก้ม จุ๊บเหม่ง จุ๊บมืออะไรยังไงก็ได้หมดแล้วแต่ถนัดเลยค่ะ 4.คู่รักฝาแฝดขอโพสต์ท่าคู่ เพิ่มความหวานสไตล์คู่รักสายแฟกันนิดนึง ถ้่าเขิน ๆ ก็หยิบไอเทมเล็ก ๆ น้อย ๆ กรุบกริบมาแมตช์คู่กันก็ได้ เช่น หมวก รองเท้า หรือสเวตเตอร์คิ้วท์ ต่อจากนั้นก็ทำการโพสต์ท่าเหมือนกันสำหรับถ่ายรูปคู่สวีท ๆ 5.กอดกันให้ตัวกลมกับเจ้าก้อน ใครอยากถ่ายรูปอวดแฟนเลเวลสูงสุดก็ต้องท่าโพสต์ถ่ายรูปนี้แล้วแหละ! แต่บอกก่อนว่าท่านี้ต้องถ่าย...

    สำหรับ Portfolio ที่ดีนั้น ไม่ควรมีแต่ตัวหนังสือบรรยายอยู่อย่างเดียว เพราะอาจจะทำให้ Portfolio ของน้อง ๆ ไม่โดนใจคณะกรรมการของมหาวิทยาลัยได้ ส่วนกิจกรรมไหนที่เคยทำ หรือกิจกรรมไหนที่เคยเข้าร่วม หากมีภาพเหล่านั้นก็ควรใส่ลงด้วย แล้วเขียนคำอธิบายใต้ภาพว่างานนี้คือกิจกรรมอะไร เพื่อช่วยให้ Portfolio ของเรามีความน่าสนใจมากขึ้น เพื่อให้น้อง ๆ ได้รู้ว่า Portfolioมีอะไรบ้าง วันนี้เรามาลองดูกันซิว่าใน Portfolio หรือ แฟ้มสะสมผลงาน 1 แฟ้ม จะมีองค์ประกอบหลัก ๆ ที่ใช้ในการยื่นสอบเข้ามหาวิทยาลัยอะไรบ้าง Portfolio ที่ดี ควรมีอะไรบ้าง?     1.หน้าปก     2.คำนำ (เหตุผลที่อยากเข้าคณะ/สาขานี้) *บางมหาลัยก็กำหนดว่าไม่ต้องมีคำนำ     3.ประวัติส่วนตัว     4.ประวัติการศึกษา     5.กิจกรรมที่โดดเด่น     6.เกียรติบัตร     7. ใบรับรองจากอาจารย์ ***มีก็ดี ไม่มีก็ได้     8.หน้าปิดท้าย ส่วนที่ 1 : หน้าปก ส่วนนี้เป็นสำคัญมาก ในการที่กรรมการจะตัดสินว่า เขาจะเปิดดูพอร์ตของเราหรือไม่ ไม่ว่าเนื้อหาภายในเล่มจะดีแค่ไหน แต่ถ้าหน้า...

  ปัญญาประดิษฐ์ ( AI : Artificial Intelligence) คือ? เครื่องจักร (machine) ที่มีฟังก์ชันทีมีความสามารถในการทำความเข้าใจ เรียนรู้องค์ความรู้ต่างๆ อาทิเช่น การรับรู้  การเรียนรู้ การให้เหตุผล และการแก้ปัญหาต่างๆ  เครื่องจักรที่มีความสามารถเหล่านี้ก็ถือว่าเป็น ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI นั่นเอง เพราะฉะนั้นจึงสามารถกล่าวได้ว่า AI ถือกำเนิดขึ้นเมื่อเครื่องจักรมีความสามารถที่จะเรียนรู้  ซึ่ง AI ก็ถูกแบ่งออกเป็นหลายระดับตามความสามารถหรือความฉลาด  โดยจะวัดจากความสามารถในการ ให้เหตุผล การพูด และทัศนคติของ AI ตัวนั้นๆ เมื่อเปรียบเทียบกับมนุษย์ AI ถูกจำแนกเป็น 3 ระดับตามความสามารถหรือความฉลาดดังนี้ 1)  ปัญญาประดิษฐ์เชิงแคบ  (Narrow AI ) หรือ ปัญญาประดิษฐ์แบบอ่อน (Weak AI) : คือ  AI ที่มีความสามารถเฉพาะทางได้ดีกว่ามนุษย์(เป็นที่มาของคำว่า Narrow(แคบ) ก็คือ AI ที่เก่งในเรื่องเเคบๆหรือเรื่องเฉพาะทางนั่นเอง)  อาทิ เช่น AI ที่ช่วยในการผ่าตัด(AI-assisted robotic surgery)  ที่อาจจะเชี่ยวชาญเรื่องการผ่าตัดกว่าคุณหมอยุคปัจจุบัน  แต่แน่นอนว่า AIตัวนี้ไ...